ชายมุสลิมสูบบุหรี่มากกว่าไทยพุทธ 2 เท่า

ข่าว/กิจกรรม 30 มิ.ย. 57 | เข้าชม: 2,088

      เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) ร่วมกับ สำนักจุฬาราชมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมผู้นำศาสนาอิสลาม 39 จังหวัดทั่วประเทศ รวมใจรณรงค์เลิกบุหรี่ในเดือนรอมฎอน โดยนายคณี โยธาสมุทร ผู้อำนวยการศูนย์กิจกรรมภาคกลาง สสม. กล่าวว่า การจัดโครงการผู้นำศาสนา 39 จังหวัดทั่วประเทศ รวมใจรณรงค์เลิกบุหรี่ในช่วงเดือนรอมฎอนเดือนอันประเสริฐ เพื่อให้ผู้นำศาสนาได้เป็นตัวอย่างในการงดสูบบุหรี่ในช่วงเดือนรอมฎอน เป็นจุดเริ่มต้นของการลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ ซึ่งสิ่งเสพติดเหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่ผิดต่อหลักศาสนาและทำลายสุขภาพมีงานวิจัยระบุว่า มีชาวมุสลิมดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากโดยเฉพาะในเขตเมือง และการสูบบุหรี่ยังไม่ลดลงในบางพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในบางพื้นที่ยังมีปัญหา ยาเสพติด ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมายในสังคม จึงขอให้ช่วงรอมฎอนอันประเสริฐนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นอันดีในการลด ละ เลิกสิ่งเหล่านี้
      ด้าน ดร.วิศรุต เลาะวิถี ผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี กล่าวว่า มัสยิดเป็นสถานที่ห้ามสูบบุหรี่ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 อยู่แล้ว โดย สสม.ร่วมกับ สสส. ขยายพื้นที่ปลอดบุหรี่ "รวมพลัง ทวงสิทธิ์ ห้ามสูบ ในพื้นที่ปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย 100% ด้วยการรณรงค์ติดสติกเกอร์ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ ถือเป็นการรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงพิษของควันบุหรี่ร่วมกันซึ่งปัจจุบันมีมัสยิดปลอดบุหรี่ 10 จังหวัดทั่วประเทศ
      รศ.ดร.อิศรา ศานติศาสน์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากการวิจัยเก็บสถานการณ์สุขภาพในชาวมุสลิมพบว่า ชายในสังคมมุสลิมมีอัตราการสูบ บุหรี่มากกว่าชาวไทยพุทธประมาณ 2 เท่า ซึ่งถือว่าน่าเป็นห่วง ส่วน ผู้นำศาสนาประมาณครึ่งหนึ่งยังสูบบุหรี่อยู่ หากสามารถทำให้ ผู้นำศาสนาเลิกสูบบุหรี่ได้ ก็จะชักชวนให้ชาวมุสลิมเลิกสูบบุหรี่ได้ด้วย