ผู้ว่าฯ สระบุรี เผย ฝ่ายปกครองอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ลุยกวาดล้างจับกุมร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมกำชับดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ข่าว/กิจกรรม 15 ธ.ค. 66 | เข้าชม: 189
ฝ่ายปกครองสระบุรี ขับเคลื่อนจัดระเบียบสังคม ลุยกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า  ผู้ว่าฯ สระบุรี เผย ฝ่ายปกครองอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ขับเคลื่อนนโยบายจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพลอย่างต่อเนื่อง ลุยกวาดล้างจับกุมร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมกำชับดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
 
วันนี้ (5 ธ.ค. 66) นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองอำเภอเฉลิมพระเกียรติ นำโดย นายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองลงพื้นที่จับกุมร้านค้าลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์ และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ พร้อมจับกุมผู้ต้องหา และของกลางได้จำนวนมาก 
 
 
นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ทำการปกครองอำเภอเฉลิมพระเกียรติได้ทำการสืบสวนพบว่า ในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติมีร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าแบบเปิดเผยอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย อีกทั้งยังมีเด็กและเยาวชน นักเรียน นักศึกษา เข้าไปซื้อบุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์ และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เป็นจำนวนมากตลอดเวลากลางวันและกลางคืน อำเภอเฉลิมพระเกียรตินำโดย นายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองออกลงพื้นที่ทำการตรวจค้น โดยเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค. 66) ได้ดำเนินการเข้าจับกุมร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าที่หมู่ที่ 7 ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ พบนายพันธ์กร (สงวนนามสกุล) เป็นผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จึงได้ทำการตรวจยึดของกลาง ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ามีการจำหน่ายและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าอย่างชัดแจ้ง เนื่องจากมีการจัดสินค้าบุหรี่ไฟฟ้า และสารสกัดที่ใช้เป็นแหล่งกำเนิดควันหรือละอองไอน้ำเพื่อการสูบแบบบุหรี่ไฟฟ้าไว้ ณ ตู้โชว์สินค้าของทางร้านพร้อมติดราคาขายไว้ ในลักษณะที่เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าใจได้ว่าเป็นสินค้าที่มีไว้เพื่อจำหน่าย โดยสามารถตรวจยึดของกลางได้ดังนี้ 1) น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า แบบตลับ จำนวน 2,508 ชิ้น 2) น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า แบบหลอด จำนวน 619 ชิ้น 3) บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 623 ชิ้น 4) เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า แบบเติมน้ำยา จำนวน 26 เครื่อง 5) คอยล์และอุปกรณ์ส่วนควบบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 494 ชิ้น และ 6) เงินสด 3,790 บาท รวมมูลค่าของกลาง เป็นเงินทั้งสิ้น 626,510 บาท พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“การจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าเป็นการละเมิดกฎหมาย อันเป็นความผิดตามมาตรา 242 ตามมาตรา 246 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของ และขายสินค้าบารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า และเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 56 ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นายบัญชาฯ กล่าวเพิ่มเติม
.
 
 
 
นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวในช่วงท้ายว่า การปฏิบัติการดังกล่าวนับเป็นการยกระดับการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพลของจังหวัดสระบุรี ตามนโยบายจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ มุ่งมั่นในการกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายที่ก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองตามพันธกิจของกระทรวงมหาดไทยในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนและทุกคนในสังคมไทย หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิด เช่น ลักลอบจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมาย หรือการกระทำความผิดทุกรูปแบบ สามารถแจ้งข้อมูล และร้องเรียนร้องทุกข์ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ สายด่วน 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
 
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 1,112/2566
วันที่ 5 ธ.ค. 2566