เกาหลีใต้ยกไทยสุดเจ๋งคุมบุหรี่ เซ็น MOU หวังเรียนรู้

น่าเอาอย่าง 28 มี.ค. 57 | เข้าชม: 3,120

 

เกาหลี ใต้ ซูฮก สสส.ไทยเป็นเบอร์ 1 ด้านคุมบุหรี่ เซ็น MOU หวังเรียนรู้การปราบบุหรี่ รณรงค์ลดนักสูบหน้าใหม่ แลกเปลี่ยนกลยุทธ์การจัดการสิ่งแวดล้อมให้น่าอยู่

ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ดร.ยอง เฮอร์ (Dr.Yong Hur) เลขาธิการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพแห่งเกาหลีใต้ (Korea Health Promotion Foundation) ได้ลงนามความร่วมมือการดำเนินการด้านการสร้างสุขภาพ ร่วมกับ สสส.เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เนื่องจากเกาหลีใต้มีแผนที่จะเริ่มการควบคุมยาสูบอย่างจริงจัง ซึ่งก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้เคยเดินทางมาศึกษาดูงานการวางยุทธศาสตร์ด้านการควบคุมยาสูบของ สสส.ไทย และมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่มาแล้ว เพราะไทยมีการดำเนินการอย่างเข้มแข็งมากว่า 30 ปี จนมีศักยภาพเป็นผู้นำในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งหลายประเทศให้การชื่นชม โดยเฉพาะเรื่องการออกกฎหมายปราบปรามผู้จำหน่ายบุหรี่เถื่อน การจำกัดอายุผู้ซื้อ รวมทั้งจุดเด่นของไทยด้านรณรงค์สร้างการรับรู้อันตรายจากการสูบบุหรี่ การได้รับควันบุหรี่มือสอง และการสร้างพื้นที่สาธารณะปลอดบุหรี่ 100%

“สำหรับ ไทยนั้น คนในสังคมเมืองมีมากขึ้น สังคมจึงต้องการสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยพื้นที่สะอาด ซึ่งเกาหลีใต้มีศักยภาพในด้านนี้ จนขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Healthy City) ไทยจึงต้องเรียนรู้ประสบการณ์การจัดการสิ่งแวดล้อมจากเกาหลีใต้ เพื่อให้มีพื้นที่สาธารณะที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน สะอาด น่าอยู่ และเร่งรณรงค์สร้างความมีวินัยของคนไทยมากขึ้น โดยในอนาคตจะขยายเวทีแลกเปลี่ยนบทบาท องค์ความรู้เรื่องการจัดการระบบสุขภาพและการส่งเสริมสุขภาพต่อไป” ทพ.กฤษดา กล่าว

 

ด้าน ดร.ยอง กล่าวว่า เกาหลีใต้มีกฎหมายที่เข้มแข็ง แต่ยังจำเป็นต้องพัฒนาสื่อในการรณรงค์สร้างการรับรู้อันตรายของบุหรี่ให้ ประชาชนทราบมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดนักสูบหน้าใหม่ ซึ่ง สสส.ไทยมีประสบการณ์ในด้านรณรงค์สังคมลักษณะนี้ โดยนำประเด็นเรื่องการทำร้ายคนใกล้ชิดจากควันบุหรี่มือสอง ทำให้คนไทยเริ่มตระหนักในอันตรายของบุหรี่ ทั้งนี้ เชื่อว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยพัฒนากฎหมาย แนวทางความร่วมมือการทำงานเชิงรุกด้านการควบคุมยาสูบของทั้งสองประเทศให้ เข้มแข็งขึ้นได้

ที่มาข่าว

https://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000137721