บางแสนปลอดเหล้า-บุหรี่ ต้นแบบพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ

ข่าว/กิจกรรม 26 ก.ค. 65 | เข้าชม: 1,661

หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครมากนัก เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึง “ชายหาดบางแสน” ชายหาดที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลกันมาพักผ่อนในวันหยุดกับครอบครัว หลังจากคลายล็อกมาตรการโควิด-19 ร้านค้าต่าง ๆ กลับมาเปิดขายปกติ ปัจจุบันบางแสนครึกครื้นและเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย บ้างก็มาเล่นน้ำ บ้างก็มานั่งชมวิวทานอาหารริมหาด ภาพบรรยากาศเหล่านี้จะสวยงามและสดใสกว่านี้ หากไม่มีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มนำแอลกอฮอล์เข้ามาดื่มและทะเลาะวิวาทกัน ทำให้ภาพลักษณ์ชายหาดบางแสนในมุมมองผู้คนที่มาเที่ยวเปลี่ยนไป

ปัญหาการทะเลาะวิวาทมีสาเหตุหลัก ๆ มาจากการดื่มสุราทำให้สร้างความรำคาญและอาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อน หลายคนต่างสงสัยว่าหาดบางแสนในยุค New Normal หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงแล้วจะเป็นอย่างไร และนี่คือโจทย์สำคัญที่เทศบาลเมืองแสนสุขเร่งปรับระบบบางแสนใหม่ เพื่อฟื้นฟูให้การท่องเที่ยวกลับมาคึกคักและปลอดภัยดั่งเช่นวันวาน

โครงการพัฒนาพื้นที่ชายหาดบางแสนเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวต้นแบบ ที่ สสส. ทำร่วมกับ เทศบาลเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมมือกันห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และห้ามสูบบุหรี่ในจุดสาธารณะที่มีนักท่องเที่ยวเล่นน้ำพักผ่อน โดยในปีนี้พิเศษกว่าปีที่ผ่านมาเพราะมีฟันเฟืองสำคัญที่ส่งต่อความรู้ และสร้างความเข้าใจให้กับนักท่องเที่ยว อย่างผู้ประกอบการ ผู้ค้า นักเรียน และนักศึกษา มาร่วมดูแลชายหาดบางแสน เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการให้มีบทบาทเรื่องการลดปัจจัยเสี่ยงมากขึ้น และสนับสนุนนโยบายพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ยกระดับให้ชายหาดบางแสนสามารถ ลด ละ เลิกปัจจัยเสี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ หลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์โควิด-19 ได้จริง

นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พูดถึงโครงการนี้ว่า การทำให้หาดบางแสนปลอดเหล้า ปลอดบุหรี่นั้น ในช่วงปีแรกที่ทำโครงการนี้ สสส. และเทศบาลตำบลแสนสุขได้ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการหลายร้าน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ค้าเป็นอย่างดีในการแนะนำนักท่องเที่ยวไม่ให้สูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนชายหาด ทางเทศบาลนั้น ได้เข้ามาจัดการระบบตรงนี้ พบว่านักท่องเที่ยวให้ความร่วมมือมากขึ้น มีการละเมิดกฎลดลง โดยให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลความปลอดภัยตลอดแนวชายหาด และคอยประชาสัมพันธ์ประกาศเสียงตามสายเตือนให้นักท่องเที่ยวได้ทราบถึงเรื่องของการห้ามดื่มและห้ามสูบบุหรี่บริเวณหาด

นางสาวรุ่งอรุณ กล่าวต่อไปว่า “เนื่องจากพื้นที่ชายหาดเป็นพื้นที่สาธารณะและเป็นพื้นที่ความปลอดภัยสำหรับครอบครัวที่มาเที่ยวพักผ่อน หากใครต้องการสูบบุหรี่ ทางเราได้จัดโซนไว้ให้ โดยจะมีห้องเล็ก ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการสูบบุหรี่และได้ติดประกาศชัดเจนว่าพื้นที่นี้เป็น “เขตสูบบุหรี่” เพื่อป้องกันควันที่อาจลอยไปรบกวนคนรอบข้าง ในปีนี้ สสส. ได้ขยายผลเน้นไปที่เยาวชน นักเรียน นักศึกษา เพราะเชื่อว่าเป็นกำลังสำคัญที่จะทำให้ชายหาดปลอดอบายมุข ร่วมกันสื่อสารและรณรงค์ เพื่อห่างไกลปัจจัยเสี่ยงและสร้างสุขภาวะที่ดีให้การท่องเที่ยวไทยได้อีกด้วย”

สาเหตุที่ผู้คนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากข้อมูลปี 2564 พบว่า

1. ผู้เสียชีวิตจากควันบุหรี่มือสอง 8,278 คน/ปี

2. เยาวชนอายุ 15-24 ปี มีอัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 1.9 ล้านคน

3. ดื่มแล้วขับ 30%

4. อุบัติเหตุบนถนนจากการดื่มแอลกอฮอล์ 25%

เรือตรี ปราโมทย์ ทับทิม ปลัดเมืองพัทยา ให้ข้อมูลว่า ทางเทศบาลเมืองแสนสุขได้ให้ความสำคัญกับการรณรงค์ให้เป็นพื้นที่สาธารณะปลอดเหล้า-ปลอดบุหรี่ หากเราร่วมมือกันลดการดื่มและการสูบ ก็จะทำให้บางแสนน่าเที่ยวและปลอดภัยขึ้น ช่วงที่ผ่านมานักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาดื่มและสูบบุหรี่ด้วย ฉะนั้น ทางเทศบาลตำบลแสนสุขจึงมีการรณรงค์ตามนโยบายของนายกเทศมนตรี นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม โดยท่านมีนโยบายว่าทำอย่างไรให้บางแสนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของทุก ๆ คน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคุณภาพที่ดี ซึ่งจะทำให้ผู้ที่มาท่องเที่ยวไม่สร้างผลกระทบ หรือเป็นภาระให้ผู้อื่น

“จะเห็นได้ว่า นักท่องเที่ยวทยอยมาเที่ยวช่วงวันหยุดกันมากขึ้น ทุกคนที่มาเข้าใจถึงมาตรการของการรณรงค์และให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี ในการนี้ ทางเทศบาลจึงขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวที่อาจจะยังไม่ทราบถึงการงดนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาดื่มและการสูบบุหรี่บนชายหาด ซึ่งส่วนนี้หากมีผู้ฝ่าฝืนทางเทศบาลอาจจะเข้าไปตักเตือนก่อนในระยะแรก แต่หากว่ายังฝ่าฝืนอยู่ ก็จะมีมาตรการจับกุม จึงขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวเข้าใจถึงกฎระเบียบที่ทางเทศบาลกำหนด และช่วยกันปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของสังคมเพื่อการท่องเที่ยวอย่างมีความสุข” ปลัดเมืองพัทยา กล่าว

ด้าน   นักศึกษามหาวิทยาลัยบูรพา คณะสาธารณสุขศาสตร์ สาขาการสาธารณสุขชุมชน เล่าถึงการเข้าร่วมโครงการนี้ว่า เนื่องจากพวกเราอยู่ใกล้ชายหาดบางแสน และเห็นถึงปัญหานี้มานานมากที่มีคนนำสุราเข้ามาดื่มและเมา ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท นักท่องเที่ยวบางกลุ่มใช้กำลังทำร้ายกัน โดยนำขวดแอลกอฮอล์ที่นำเข้ามาใช้เป็นอาวุธทำร้ายกัน ทำให้คนอื่น ๆ ไม่ค่อยกล้าที่จะเข้ามาพักผ่อนเพราะกลัวจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้และไม่ปลอดภัย ส่วนใหญ่มักจะเกิดเหตุเช่นนี้กับวัยรุ่น พวกเราในฐานะนักศึกษาจึงสนใจโครงการนี้ และเข้ามาร่วมรณรงค์ พัฒนาชายหาดบางแสนให้น่าเที่ยวและปลอดเหล้า-บุหรี่มากขึ้น และโครงการนี้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ดีสำหรับการรณรงค์งดนำของมึนเมาเข้ามาที่ชายหาด ทำให้ชายหาดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาพักผ่อนมากขึ้น

 

เหล้า-บุหรี่ เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ สสส. ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนให้สถานที่ท่องเที่ยวสาธารณะทั่วประเทศเป็นพื้นที่ต้นแบบด้านความปลอดภัย ห่างไกลปัจจัยเสี่ยง  สสส. และภาคีเครือข่าย สนับสนุนนโยบายพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ยกระดับให้ชายหาดบางแสนสามารถ ลด ละ เลิกปัจจัยเสี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ เพื่อส่งเสริมให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวต้นแบบสุขภาวะที่ดีต่อไป

 

เรื่องโดย จุติพร วรรณศิริ Team Content www.thaihealth.or.th

ข้อมูลจาก โครงการพัฒนาพื้นที่ชายหาดบางแสนเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวต้นแบบ “บางแสนปลอดภัยลดปัจจัยเสี่ยง (เหล้าบุหรี่)” จากมาตรการส่งต่อสู่คนรุ่นใหม่