วิธีดูแลสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยง การเกิดโรคถุงลมโป่งพอง

อันตรายจากบุหรี่ 19 ม.ค. 65 | เข้าชม: 3,477
โรคถุงลมโป่งพอง เป็นโรคที่เกิดจากสาเหตุหลายประการ แต่สาเหตุหลักที่พบมากกว่า 90 % นั้น เกิดขึ้นจากการสูบบุหรี่ ส่วนสาเหตุอื่น ๆ อาจจะเกิดขึ้นจากการประกอบอาชีพ เช่น เกษตรกร ที่อาจจจะมีการเผาฟาง เผาหญ้า หรืออาชีพที่ต้องได้รับควันพิษ ไอพิษ จากสารเคมีต่าง ๆ ซึ่งโรคนี้เมื่อเป็นแล้วจะเป็นไปตลอดชีวิต รักษาไม่หาย จึงนับว่าเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก
 
อาการของโรคถุงลมโป่งพองที่สังเกตได้ ดังนี้
1. เหนื่อยง่าย เหนื่อยเร็วกว่าปกติ-หายใจไม่อิ่ม หายใจไม่ทัน ทำกิจวัตรประจำวันแบบเดิมที่เคยทำได้น้อยลง หรือทำได้เท่าเดิมแต่เหนื่อยง่ายขึ้น
2. ไอและมีเสมหะเรื้อรัง-เป็น ๆ หาย ๆ อย่างต่อเนื่องภายใน 2 ปี
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจรักษา โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยง อย่างผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้ที่ประกอบอาชีพที่สัมผัส ฝุ่น ควัน PM2.5 หรือสารเคมีที่เป็นไอระเหยอย่างต่อเนื่อง และผู้ที่ป่วยเป็นโรคหอบหืด หรือภูมิแพ้และรับการรักษาอย่างดีมาโดยตลอด
วิธีดูแลสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคถุงลมโป่งพอง
1. ไม่สูบบุหรี่ หรือเลิกบุหรี่โดยเด็ดขาด
2. งดสัมผัสสิ่งกระตุ้น หรือทำให้ระบบภูมิคุ้มกันระบบทางเดินหายใจอ่อนแอ เช่น ฝุ่น PM2.5, ควันไอเสียต่าง ๆ
3. สวมหน้ากากทุกครั้ง เมื่อต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นควัน หรือต้องทำงานสัมผัสฝุ่นควันปริมาณมาก
4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
5. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
ขอบคุณข้อมูลจาก สสส.